ปราชญ์เกษตร

  [ ดูบทความทั้งหมด ]
 

ให้คะแนนบทความนี้

บทความหมายเลข 50 | คะแนน Rating: 0.0/5 ดาว (จากจำนวนโหวต 0 votes)

Tag : ปราชญ์เกษตร
Bookmark and Share


นายยงยุทธ ตรีนุชกร (เสียชีวิตแล้ว)


ที่อยู่

             เครือข่ายอินแปง 149/7 หมู่ 8 บ้านบัว ตำบลกุดบาก อำเภอกุดบาก จังหวัดสกลนคร

โทรศัพท์

             084-518-5747

แนะนำปราชญ์เกษตร

                 นาย ยงยุทธ ตรีนุชกร หรือหมอยุทธ เกิดที่ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร บิดาประกอบอาชีพการประมง จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับสอง สาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาโท สาขาพัฒนาสังคม หมอยุทธ ถือเป็นนักพัฒนาที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสังคม โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสาน อาศัยองค์ความรู้ที่หลากหลาย ทั้งเรื่องการดูแลสุขภาพวิถีไท การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม การบริหารจัดการองค์ความรู้ และด้านการเกษตร นำมาบูรณาการ เพื่อใช้พัฒนาชุมชนให้สอดคล้องกับทรัพยากรที่มีอยู่ในแต่ละพื้นที่ แนวคิดหลักในการทำงานพัฒนาสังคมเกษตรกรรมภาคอีสาน คือ การสร้างทายาทลูกหลานเกษตรกรในคนรุ่นใหม่ให้ทำการเกษตรด้วยความรู้ ภูมิปัญญา จัดการดิน น้ำ อากาศ และอาหารให้สอดคล้องและส่งเสริมต่อสุขภาพของคนในท้องถิ่น ผ่านกระบวนการเรียนรู้ของ “มหาวิทยาลัยชีวิตอินแปง” ซึ่งเมื่อจบตามหลักสูตรไม่ได้รับกระดาษเป็นใบรับรอง หากแต่ได้หลักและความรู้สำหรับการดำเนินชีวิต มีแปลงเกษตรแบบใหม่ ใช้ความรู้ ภูมิปัญญา และหลักการตลาดนำการผลิต เป็นแปลงเกษตรต้นแบบ และเป็นอาสาสมัครสร้างสรรค์สังคม ให้เป็นสังคมที่เกื้อกูลกัน กระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต หมอยุทธยังคงเดินตามปณิธานที่มีอย่างมั่นคง ผ่านผู้สืบทอดเครือข่ายอินแปง และกลุ่มเด็กนิเวศน์ ซุกยู้(ผลักดัน) ผู้คนโดยเฉพาะชุมชนท้องถิ่นอีสาน ให้มีวิถีพึ่งตนเอง ด้วยแนวคิดเรียบง่าย สบาย สบาย

องค์ความรู้

                 เติมพลังชีวิต ด้วยน้ำแดดเดียว,หลักพื้นฐาน การหายใจอย่างสบายสบาย

                 เติม พลังชีวิต ด้วยน้ำแดดเดียว การปรับปรุงคุณภาพน้ำดื่มด้วยวิธีง่ายๆประหยัด ถูกคิดค้นขึ้นโดยสถาบันค้นคว้าสิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และเผยแพร่ไปทั่วโลก ในประเทศไทยได้ถูกทดลองในภาคอีสานร่วมกับคณะวิทยาศาสตร์ หาวิทยาลัยขอนแก่น ในนามโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำดื่มด้วยพลังแสงอาทิตย์ ประเทศไทยหรือน้ำแดดเดียว ได้ข้อสรุปในการปฏิบัติดังนี้คือ 1. การนำน้ำผึ่งแดดนาน 3-4 ชั่วโมง ให้น้ำมีอุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส พลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์ สามารถทำให้เชื้อต่างๆลดลงเหลือน้อยกว่า 1 ใน 1000 ส่วน 2. เมื่อกินแล้วทำให้สบายท้อง ปัสสาวะกลิ่นฉุนน้อยลง รสชาติน้ำไม่จืดชืดเหมือนน้ำต้ม 3. ทำให้ครอบครัวเกิดความประหยัด ไม่สิ้นเปลืองค่ารักษาโรคทางเดินอาหาร เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ ลำไส้ กระเพาะ การทำน้ำแดดเดียว 1. เตรียมขวดแก้วกลมใส ไม้ไผ่สำหรับทำโครงวางขวด ผ้าพลาสติกดำปูบนโครงไม้ไผ่รับแสงอาทิตย์ 2. นำขวดน้ำดื่มประจำตัวของแต่ละคนใส่น้ำฝน หรือน้ำประปากรอง คนละ 3-5 ขวด ปิดฝา แล้ววางบนชั้นไม้ไผ่ เอียง 45 องศา ผึ่งแดด 3-5 ชั่วโมง แล้วนำมาเก็บไว้ดื่ม ให้หมดใน 1 วัน 3. ขณะเดียวกันก็กรอกน้ำผึ่งแดดทุกวัน ดังนั้นแต่ละคนจะมีขวดสำหรับตนเอง 6-10 ขวด หมุนเวียนทุกวันตลอดไป และสามารถพกพาน้ำที่ตากแดดแล้วไปในที่ต่างๆได้ วิธีดื่มน้ำให้ได้ประโยชน์สูงสุด มีกฎอยู่ 2 ข้อคือ 1. ตื่นตอนเช้าก่อนแปรงฟัน ดื่มน้ำแดดเดียวจนรู้สึกอิ่ม ประมาณ 1-2 ขวด แล้วบริหารร่างกาย ไม่นานร่างกายจะขับถ่ายออกเป็นน้ำ ช่วยล้างตั้งแต่คอ หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ ให้สะอาด ระบบการดูดซึมอาหารดีขึ้น ไม่มีกากตกค้างในลำไส้ และไม่มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ไม่ต้องสวนทวารรบกวนลำไส้ใหญ่ให้ระคายเคือง 2. น้ำที่เหลือ ดื่มก่อนและหลังกินข้าว 1 ชั่วโมง ไม่ควรดื่มน้ำระหว่างรับประทานอาหาร เพราะทำให้น้ำย่อยเจือจาง อาหารถูกย่อยไม่หมดเป็นภาระต่อลำไส้ สะสมหมักหมมของเสียทำให้เลือดลมไม่ดี

                 การหายใจ หลักพื้นฐาน การหายใจอย่างสบายสบาย(Breathing) เมื่อมีความว้าวุ่นใจ เครียด คิดอะไรไม่ออก สะอื้นเสียใจ ถ้าได้ถอนหายใจ จะรู้สึกสบาย เป็นมรรควิธีที่ธรรมชาติให้มาปกป้องตนเอง เพราะเมื่อถอนหายใจคือการหายใจออก อย่างกะทันหัน ทำให้กระดูกลดตัวลงบีบให้กล้ามเนื้อหดตัวกะทันหัน เกิดแรงดันในหลอดเลือด ดันเลือดลมให้พุ่งไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ได้มากขึ้น โดยเฉพะสมอง จึงทำให้รู้สึกสบาย และการหายใจออกยังเป็นการขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และของเสียอื่นๆ ออกจากอวัยวะภายในด้วย การหายใจออกหรือกลั้นหายใจ เป็นช่วงๆ ในแต่ละวัน หรือในช่วงของการทำงานหนัก หรือมีความเครียด หรือทุกขณะจิตที่รู้สึกตัว ความสบายจะเกิดอย่างต่อเนื่อง ยิ่งหายใจออกมากเท่าใด อากาศจะอัดกลับคืนเข้าปอดมากเพียงนั้น เลือดได้รับออกซิเจนมากเท่าไร ความสะอาดบริสุทธิ์ในร่างกายจะมากขึ้นตามเท่านั้น และคุณภาพของเลือดยิ่งสูง ร่างกายจิตใจยิ่งดี ตามไปด้วย อย่าลืมช่วงหายใจออก ให้พ่นสัญลักษณ์ของความเลวร้ายออกมาด้วย เช่น ลาภ ยศ สรรเสริญ ออกไปด้วย พร้อมกับยิ้มและแผ่เมตตาให้ตนเองและสรรพสิ่ง จะทำให้การหายใจออกมีประสิทธิภาพสูงขึ้น นำสู่วิถีทางแห่งความสบายสบาย


เข้าชม : 2147    [ ขึ้นบน ]


บทความ  นิคมการเกษตรข้าว 5 บทความล่าสุด

      นายอภินันต์ หมัดหลี  12 / ต.ค. / 2553
      นายบุญชู เพชรรักษ์  12 / ต.ค. / 2553
      นายช่วน ยอดวิจารณ์  12 / ต.ค. / 2553
      พระอธิการสุวรรณ์ คเวสโก   12 / ต.ค. / 2553
      นายลาภ ชูเมือง  12 / ต.ค. / 2553