ปราชญ์เกษตร

  [ ดูบทความทั้งหมด ]
 

ให้คะแนนบทความนี้

บทความหมายเลข 40 | คะแนน Rating: 0.0/5 ดาว (จากจำนวนโหวต 0 votes)

Tag : ปราชญ์เกษตร
Bookmark and Share


นายคำสิงห์ มาลาหอม


ที่อยู่

             12 หมู่ที่ 8 บ้านน้ำเที่ยง ตำบลหนองกุงสวรรค์ อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม 44140

โทรศัพท์

             087-927-7152

แนะนำปราชญ์เกษตร

                 เดิม พ่อคำสิงห์ทำการเกษตรเชิงเดี่ยว แต่ละปีต้องใช้สารเคมีมากขึ้นๆ สุดท้ายสารเคมีเหล่านั้นกลับมาส่งผลต่อร่างกายทำให้เจ็บป่วยบ่อยครั้ง การทำเกษตรแบบนี้รายได้ไม่เพียงพอเลี้ยงครอบครัวจึงทำให้เกิดภาระหนี้สินพอก พูนขึ้นเรื่อยๆ ต้องออกรับจ้างตัดอ้อย หลังว่างจากการทำนา เมื่อเข้าร่วมโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ ได้รับความรู้และแนวทางในการทำการเกษตรไม่พึ่งสารเคมี ปลูกพืชสลับหมุนเวียน และเคารพต่อคุณค่าของธรรมชาติ เมื่อทดลองทำพบว่าเป็นแนวทางที่ดีและเกิดความมั่นใจ จึงชักชวนคนในชุมชนให้ทำเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม่แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจ ซ้ำยังถูกมองว่าเป็นคนบ้า พ่อคำสิงห์จึงตัดสินใจพาครอบครัวทิ้งบ้านย้ายไปอยู่ในแปลงนา เริ่มทำเกษตรผสมผสานอย่างจริงจัง ด้วยระบบชีวภาพ ช่วงแรกมีการลองผิดลองถูกหลายอย่าง ทั้งสูตรน้ำหมักและปุ๋ยชีวภาพ กระทั่งคิดนำผักผลไม้ที่มีในไร่นามาทดลองทำเป็นสูตรเฉพาะเรียกว่า “สูตรใหม่นาทอง” ความหมาย คือ ใหม่ หมายถึง การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ นา หมายถึง พื้นที่นาหรือพื้นที่การเกษตร ทอง หมายถึง เมื่อทำการเกษตรตามแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ได้ผลผลิตดีมีค่าดั่งทองคำ

องค์ความรู้

                 การเลี้ยงกบต้นทุนต่ำ



                 การ เลี้ยงกบต้นทุนต่ำ 1. ขุดบ่อเลี้ยงกบ ความกว้างประมาณ 1.5 เมตร ยาวประมาณ 2-3 เมตร ก่ออิฐบล็อกตามความยาวและความกว้างให้มีความสูงประมาณ 1 เมตร 2. เติมน้ำประมาณ 20 เซนติเมตร หลังจากนั้นจึงเพิ่มตามขนาด และความหนาแน่นของกบ เมื่อกบโตเต็มที่เพิ่มน้ำสูงประมาณ 50 เซนติเมตร 3. นำกบพ่อแม่พันธุ์ที่คัดเลือกไว้ลงบ่อ ต้องแยกพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์กบออกก่อนเพื่อรอให้แม่พันธุ์พร้อมผสมพันธุ์ เลือกจากพ่อแม่พันธุ์ที่มีสุขภาพสมบูรณ์ และมีอัตราการเจริญเติบโตปกติ สม่ำเสมอ มีรูปร่างสมส่วน ไม่มีบาดแผลตามลำตัว 4. สังเกตแม่พันธุ์ว่าพร้อมที่จะผสมพันธุ์หรือไม่ จากลำตัวด้านข้างที่อ้วนผิดปกติ จึงนำพ่อแม่พันธุ์มาไว้บ่อเดียวกัน การเคลื่อนย้ายกบต้องระวังอย่าให้กบตกใจเพราะอาจทำให้กบไม่ออกไข่ ช่วงเวลาการผสมพันธุ์ที่เหมาะสมประมาณ 19.00 น. และกบจะออกไข่ในช่วงเวลาประมาณตี 2 ถึงตี 3 5. เมื่อได้ไข่กบแล้ว ในตอนเช้า แยกพ่อแม่พันธุ์ออก ไข่จะใช้ระยะเวลาในการฟัก 1 วัน เป็นลูกอ๊อด 6. ให้อาหารลูกอ๊อด เมื่ออายุได้ 3 วัน โดยนำไข่ไก่ต้ม 2-3 ฟอง เอาเฉพาะไข่แดงมาบดผสมน้ำแล้วเทลงในบ่อ สังเกตดูว่าไข่ตกตะกอนหรือไม่หากไข่ตกตะกอนไม่ต้องให้อาหารเพิ่มอีก เนื่องจากจะทำให้น้ำเน่าเกิดกลิ่นเหม็นได้ 7. เมื่อกบเริ่มเป็นตัว ให้อาหารเม็ดผสมกับหญ้า ใช้หญ้าชนิดใดก็ได้ที่มีตามท้องนาทั่วไป เมื่อโยนลงไปในบ่อ หญ้าจะเปื่อยยุ่ยเป็นอาหารกบ 8. ใส่น้ำหมักชีวภาพ สูตรใหม่นาทอง เพื่อดับกลิ่น ทุก10-15 วัน ครั้งละ 1 แก้วต่อบ่อเลี้ยงกบ 1 บ่อ เพื่อลดกลิ่นเหม็นที่เกิดจากการเน่าเสียของน้ำในบ่อ ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำบ่อย ประหยัดน้ำและเวลา 9. สามารถนำกบออกขายได้ตั้งแต่ลูกอ็อดอายุได้ 25 วัน ในราคาประมาณ กิโลกรัมละ 200 บาท ลูกกบอายุ 40 วัน ขายในราคาตัวละ 1 บาท และกบโตเต็มที่อายุ 5-6 เดือน ขายกิโลกรัมละ 80 บาท หากต้องการขายพ่อแม่พันธุ์ก็สามารถขายได้ราคาตัวละ 500 บาท


เข้าชม : 956    [ ขึ้นบน ]


บทความ  นิคมการเกษตรข้าว 5 บทความล่าสุด

      นายอภินันต์ หมัดหลี  12 / ต.ค. / 2553
      นายบุญชู เพชรรักษ์  12 / ต.ค. / 2553
      นายช่วน ยอดวิจารณ์  12 / ต.ค. / 2553
      พระอธิการสุวรรณ์ คเวสโก   12 / ต.ค. / 2553
      นายลาภ ชูเมือง  12 / ต.ค. / 2553