นายถนอม จันทร์เงิน


ที่อยู่

             118 หมู่ที่ 13 บ้านเนินไทรพัฒนา ตำบลป่าซางอำเภอเวียงเชียงรุ้ง จังหวัดเชียงราย 57210

โทรศัพท์

             083-322-6025,085-627-6686

แนะนำปราชญ์เกษตร

                  ด้วยความรักการออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะกีฬาวิ่งเป็นกีฬาที่พี่ถนอมชอบมาก เพราะไม่ต้องใช้อุปกรณ์ สนาม และสามารถเล่นได้ทุกที่ เมื่อแต่งงานได้ชักชวนภรรยา และลูก ๆ ให้ออกกำลังกายพร้อมกัน เป็นครอบครัวนักกีฬา แข่งชนะทั้งระดับตำบล อำเภอ จังหวัด ได้รับรางวัลมากมาย จนคู่แข่งไม่อยากลงแข่งขันด้วย หากครอบครัวพ่อถนอมลงแข่งขัน ช่วงเริ่มสร้างครอบครัวใหม่ ด้วยความยากจน จึงต้องขยันทำงาน เก็บออมเงินเพื่อส่งเสียให้ลูกทั้งสอง ได้เรียนสูงที่สุด เท่าที่จะทำได้ จนปัจจุบันลูกทั้งสองจบระดับปริญญาตรี และมีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง พี่ถนอมเริ่มทำงานรับใช้สังคม ด้วยการเป็นอาสาสมัครของหน่วยงานราชการต่าง ๆ ทั้งในและนอกกระทรวงเกษตรฯ ด้วยความขยัน อดทน และมีจิตใจมุ่งมั่นทำการเกษตร ช่วงปี2530 เกษตรกรภาคเหนือนิยมปลูกส้มเขียวหวาน พี่ถนอมเป็นเกษตรกรอีกผู้หนึ่งที่ประสบความสำเร็จในการปลูกส้มเขียวหวาน ที่มีรสชาติหวาน เป็นที่นิยมของตลาดเป็นอย่างมาก จนปัจจุบันส้มเริ่มมีปัญหา จึงหันมา ปลูกยางพารา โดยระหว่างแถวยางพารา ปลูกพืชผักเพื่อเก็บเป็นอาหาร และจำหน่ายเป็นรายได้เสริม นอกจากเป็นครอบครัวที่ขยันขันแข็ง คือจะไม่จ้างแรงงานมาทำนา จะค่อย ๆ ทำด้วยแรงจนเสร็จ ไม่รีบร้อนในการทำเกษตร ใช้เวลาอยู่ที่แปลงทั้งวัน ยังรู้จักใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น นำฝรั่งที่มีแมลงวันทองเจาะ มาตำผสมกับรำข้าว เป็นอาหารเสริมให้ปลาในบ่อ และปลูกมันเทศ บริเวณริมบ่อปลา เพื่อนำยอดมันเทศ เป็นอาหารของปลา โดยไม่ต้องซื้ออาหารสำเร็จรูปให้ปลาเป็นการลดต้นทุนการผลิต

องค์ความรู้

                 เกษตรผสมผสาน,การทำนา สวนผลไม้ พืชผัก และเลี้ยงสัตว์ด้วยระบบชีวภาพ,น้ำหมักกำจัดโรคแคงเกอร์ในส้ม



                 น้ำ หมักกำจัดโรคแคงเกอร์ในส้ม ส่วนผสม มูลสุกร 20-25 กิโลกรัม ปูนขาว 7 กิโลกรัม น้ำ 20 ลิตร วิธีทำ ผสมมูลสุกรปูนขาวให้เข้ากัน ใส่ในถังพลาสติก ปิดฝาตั้งไว้อย่างน้อย 1 คืน การนำไปใช้ น้ำหมัก 20 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทางใบ หรือวิธีรดโคนต้น สามารถใช้อัตราส่วนที่เข้มข้นขึ้น ฉีดพ่นทุกๆ 7 วัน เพื่อป้องกันหรือกำจัดเกิดโรคแผลสะเก็ดในส้ม โรคโคนเน่า และใบหงิก



                 ลดต้นทุนการทำนา พื้นที่ 10 ไร่ พ่อถนอมและภรรยาใช้แรงงานเพียง 2 คนในการทำนา ใช้การจัดการให้ได้ข้าวพอกิน เหลือจึงแบ่งขายได้ ดังนี้ หน้าแล้ง (เดือนมีนาคม) ใส่ปุ๋ยหมัก ที่มีส่วนผสมของ แกลบ มูลสัตว์ ปูนขาว หมักไว้ข้ามปี เมื่อมีสีน้ำตาลหรือดำนำมาใช้ ในอัตรา 10 กระสอบ/ไร่ รอกระทั่งฝนตก ปล่อยให้หญ้าขึ้น จึงไถกลบ เพื่อใช้หญ้าทำปุ๋ยพืชสด และช่วยลดปริมาณหญ้าในระหว่างเพาะปลูกได้ หว่านกล้า 1 งาน ใช้เมล็ดพันธุ์ 3 ถัง เมื่อกล้าอายุ 15-20 วัน ถอนแช่น้ำไว้จุดละประมาณ 20 ต้น เรียกว่า “สิมกล้า เพื่อเร่งให้กล้า แตกกอได้ดี และเป็นเทคนิคยืดอายุกล้าในกรณีที่มีแรงงานจำกัด ดำนา ดำนากอละ 5 ต้น ปล่อยน้ำเข้าให้สูงประมาณ 1 คืบ กำจัดหอยเชอรี่ ใช้ใบมะละกอ 2-3 ใบวางตามหัวมุมแปลงนา ในตอนเย็น เพื่อล่อให้หอยเชอรี่มากิน ตอนเช้าจึงเก็บหอยเชอรี่ไปทำน้ำหมัก โรคหนอนชอนใบ และหนอนกอ ปูนขาวในส่วนผสมของปุ๋ยหมัก ช่วยลดการเกิดโรคหนอนชอนใบ และหนอนกอ ข้าวตั้งท้อง ใช้น้ำหมักจากหอยเชอรี่ จำนวน 5 ลิตร เทบริเวณต้นน้ำ แล้วปล่อยไหลเข้าแปลงนา โดยทำทางน้ำเวียนรอบแปลงเพื่อให้ระบบน้ำ และน้ำหมักไหลไปเลี้ยงต้นข้าวได้อย่างทั่วถึง ช่วยบำรุงให้เมล็ดข้าวน้ำหนักดี ข้าวออกรวงมาก เก็บเกี่ยว เมื่อข้าวหางเหลือง หรือสังเกตเปลือกเมล็ดข้าวใส ใช้ไม้ข่มกอข้าวให้ลู่ลง เพื่อให้ข้าวลู่ไปทิศเดียวกัน เกี่ยวเมื่อข้าวแก่เต็มที่ จะได้ข้าวเปลือกแห้ง สามารถเก็บข้าวในยุ้งได้นาน โดยไม่ต้องตากหรืออบแห้งอีก ฟางข้าว มัดเป็นท่อนผสมขี้วัว ใส่ในบ่อเลี้ยงปลา ประมาณ 1 เดือนจะเกิดไรแดง สำหรับเลี้ยงลูกปลา ตอซัง ปล่อยวัว ควายลงเลี้ยงในแปลงนา ให้กินหญ้า ลูกข้าว และตอซังที่เหลือ พร้อมกับให้ย่ำตอซัง