นายบุญเป็ง จันต๊ะภา
ที่อยู่
45 หมู่ 14 ตำบลไม้ยา อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย 57290
โทรศัพท์
089-553-2457
แนะนำปราชญ์เกษตร
พ่อ บุญเป็ง จันต๊ะภา เกิดมาในครอบครัวที่ยากจน แต่ไม่ยอมแพ้ต่อชะตาชีวิต ฝืนทนเป็นขอทานอาหารเลี้ยงพ่อ แม่ และครอบครัว ดีกว่ายอมเป็นขโมย แม้ถูกคนอื่นดูถูกเหยียดหยาม แต่ไม่เคยท้อ หาโอกาสศึกษาเล่าเรียน เป็นเด็กวัดและได้บวชเรียน อยู่ 10 ปี จนสอบได้นักธรรมโท จึงได้ลาสิกขาบท แต่งงานสร้างครอบครัว นำหลักธรรมมาใช้ในการประกอบอาชีพและดำเนินชีวิต ด้วยความวิริยะ ซื่อสัตย์ ต่อสู้ความยากจนด้วยน้ำพักน้ำแรงบนผืนดินที่แลกมาด้วยจักรยานหนึ่งคัน ปลูกแตงร้าน กระทั่งได้ข้อสรุปทางความคิดว่า หากทำนา แล้วมีรายได้จากการทำนาเพียงอย่างเดียว ปีหนึ่งจะมีวันรับเงินแค่ครั้งหรือสองครั้ง แต่จะต้องจ่ายเงินเกือบทุกวัน จึงเปลี่ยนแนวทางทำการเกษตรใหม่มาเป็นเกษตรผสมผสาน โดยยึดแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลัก
องค์ความรู้
การเลี้ยงหมูหลุม,การเลี้ยงกว่าง
การ เลี้ยงหมูหลุม 1. เตรียมคอก ก่อสร้างด้วยอิฐบล็อก ขนาด15 ตารางเมตร สำหรับเลี้ยงหมูไม่เกิน 10 ตัว ทำพื้นคอกโดยขุดดินลึกประมาณ 90 ซม. ก่ออิฐบล็อกขึ้นมา 90 ซม. และก่อขึ้นด้านบน 80 ซม. เพื่อกันหมูออก มุงหลังคาด้วยสังกะสี กระเบื้อง หรือแฝก 2. รองพื้นคอกหมูหลุม มีส่วนผสมประกอบด้วย แกลบ 30 กระสอบ ดินแดง 3 กระสอบ (เนื่องจากดินแดงมีแร่ธาตุ ทำให้หมูโตเร็ว) ปุ๋ยหมัก 3 กระสอบ และน้ำหมักจุลินทรีย์ 1 ลิตร วิธีรองพื้นคอกหมูหลุม ทำได้ดังนี้ - ใช้แกลบ 10 กระสอบเทรองพื้น -ใส่ดินแดง 1 กระสอบ -ใส่เกลือแกง 1 กิโลกรัม -น้ำหมัก 1 ลิตร ผสมน้ำ 10 ลิตร ราดให้ทั่วพื้นคอก ทำเรียงกัน 3 ชั้น จากนั้นทิ้งไว้ 1 คืน จึงปล่อยหมูลงเลี้ยง 3. การให้อาหารหมู เดือนที่ 1 จะให้อาหารหมูสำเร็จรูป เบอร์ 1 โดยให้1 ตัว ต่อ 1 ถุง หรือ 20 กิโลกรัม จากนั้นให้อาหารว่างตลอดจนถึงค่ำ จำพวกต้นกล้วย กระถิน ผักบุ้งสับ เดือนที่ 2 ให้อาหารหมักพืชจากการผสมรำละเอียด ปลาป่น น้ำต้มหอย น้ำต้มปลา และน้ำหมักสมุนไพร หมักไว้ 1 สัปดาห์ และอาหารสำเร็จรูปในอัตรา 1 กิโลกรัม ต่อ 1 ตัวต่อมื้อ พร้อมกับให้อาหารว่างด้วย เดือนที่ 3 ลดอาหารสำเร็จรูปลงครึ่งหนึ่ง แต่ให้อาหารหมักและอาหารว่างเหมือนเดิม เดือนที่ 4 ไม่ต้องให้อาหารสำเร็จรูปแต่ให้อาหารหมัก สามารถลดต้นทุนอาหารสำเร็จรูปได้ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ เดือนที่ 5 จับขายได้ หมูจะมีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 100-120 กิโลกรัม ซึ่งเป็นขนาดที่ตลาดมีความต้องการ และจะต่างจากหมูทั่วไป คือให้เนื้อแดง แน่น มีมันน้อย และไม่มีกลิ่นสาบ
การเลี้ยงกว่าง การชนกว่างเป็นการละเล่นพื้นบ้านของชาวล้านนาที่นิยมเล่นกันทั้งเด็กและ ผู้ใหญ่โดยจะเล่นในปลายฤดูฝนประมาณเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม พอออกพรรษาแล้วค่อย ๆ เลิกราปล่อยกว่างกลับสู่ธรรมชาติ พ่อบุญเป็งจึงได้เพาะเลี้ยงด้วงกว่างหรือ กว่างโซ่ง ด้วยวิธีการ คือ ขุดหาตัวด้วงตามแหล่งธรรมชาติต่าง ๆ มาเลี้ยง ปล่อยไว้ตามกองปุ๋ยหมัก เมื่อกว่างตัวผู้และตัวเมียผสมพันธุ์กันช่วงต้นฤดูฝนจะวางไข่ ฟักตัวเป็นหนอน เป็นดักแด้ และพัฒนาเป็นตัวเต็มวัยในฤดูหนาว จากนั้นจึงนำตาข่ายไนล่อนมาคลุมกองปุ๋ยหมักกันด้วงกว่างบินหนี การเพาะเลี้ยงด้วงกว่างนอกจากจะเป็นการอนุรักษ์ด้วงกว่างแล้วยังสามารถสร้าง อาชีพเสริมให้อีกด้วย โดยขายให้กับนักชนกว่างซึ่งด้วงกว่างที่มีลักษณะดีนั้น พ่อบุญเป็งบอกว่า จะมีลักษณะเขายาวเสมอกันทั้งด้านบนและด้านล่าง ตัวใหญ่ สีแดงซึ่งจะสามารถขายได้ ตั้งแต่ราคา 500-1000 บาท
